บริษัท จีซี เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เอนจิเนียริง จำกัด ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพนักงาน ได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน บริษัทจึงได้จัดทำคำบอกกล่าวการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้พนักงานทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย รวมตลอดถึงการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ทั้งนี้บริษัทขอให้พนักงานโปรดอ่านคำบอกกล่าวคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจวัตถุประสงค์และรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
ข้อ 1. คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท จีซี เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เอนจิเนียริง จำกัด
“พนักงาน” หมายถึง บุคคลที่บริษัทตกลงจ้างให้ทำงานกับบริษัทโดยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ได้แก่ พนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานสัญญาจ้างโครงการมีกำหนดระยะเวลา ซึ่งได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนหรือรายวัน รวมถึงนักศึกษาฝึกงาน
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
2.1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contrack)ซึ่งพนักงานเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น การจ้างแรงงาน การขึ้นทะเบียนพนักงาน การฝึกอบรม การประเมินผลปฏิบัติงาน การบันทึกเวลาทำงาน การลา การจ่ายค่าจ้าง การบริหารจัดการด้านภาษีอากร การตักเตือนหรือลงโทษทางวินัย การออกหนังสือรับรอง การบริหารจัดการสวัสดิการ การปรับระดับพนักงาน เป็นต้น
2.2. เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ สื่อสารในเรื่องต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกบริษัท หรือติดต่อสื่อสารบุคคลอื่นกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินกับพนักงาน
2.3. เพื่อใช้ประกอบในการอ้างอิงการยืนยันตัวตนของพนักงานและความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลอื่นๆ ที่พนักงานได้ให้ไว้แก่บริษัท ภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest)
2.4. เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอื่นๆ ของผู้สมัครไปยังบริษัท พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (“GC”) และ/หรือบริษัทในกลุ่ม GC ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศ
2.5. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ (Legal Obligation) เช่น กฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษีอากร และกฎหมายหรือกฎ ระเบียบใดๆ ที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
2.6. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest) และประโยชน์ทางด้านสาธารณะสุข ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การติดต่อฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาด
ข้อ 3. ประเภทข้อมุลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
3.1. ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทได้เก็บ รวมรวม ใช้หรือเปิดเผย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
3.1.1. ชื่อตัว ชื่อสกุล ชื่อเล่น เพศ ภาพถ่าย วัน เดือน ปีเกิด อายุ สัญชาติ น้ำหนัก ส่วนสูง สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส
3.1.2. Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายนำ ประสบการณ์ทำงาน และข้อมูลด้านการศึกษา
3.1.3. ข้อมูลในการติดต่อกับพนักงาน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail address)หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
3.4. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือใบอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวกับงาน ใบอนุญาตหรือประกาศนียบัตรที่มีอยู่
3.1.5. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดหรือเอกสารเกี่ยวกับคู่สมรส บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา รายชื่อเครือญาติของพนักงาน ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามแก่บริษัท พนักงานรับรองและรับประกันว่าพนักงานมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้บริษัท ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามคำประกาศฉบับนี้ นอกจากนี้พนักงานยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงคำประกาศฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น
3.1.6. ข้อมูลที่รวบรวมจากพนักงาน เช่น ข้อมูลที่พนักงานแจ้งแก่บริษัท ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของพนักงานในการทำแบบทดสอบต่าง ๆ ข้อมูลของพนักงานที่บริษัทได้บันทึกภาพและ/หรือเสียงในระหว่างการทำกิจกรรมเพื่อกระบวนการรับเข้าทำงานหรือฝึกงานของบริษัท เป็นต้น
3.1.7. ข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิการและผลประโยชน์ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน ประกันภัยกลุ่ม ใบรับรองแพทย์ การเบิกค่ารักษาพยาบาล ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้
3.2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งบริษัทได้เก็บ รวมรวม ใช้หรือเปิดเผย มีรายละเอียดดังนี้
ข้อมูลกรุ๊ปเลือด ข้อมูลเชื้อชาติ ข้อมูลศาสนาของพนักงาน เพื่อใช้ประกอบในการจัดทำสัญญาจ้างแรงงาน และเป็นข้อมูลในการใช้รักษาพยาบาลของพนักงาน
ข้อ 4. การสงวนสิทธิในกรณีพนักงานไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
บริษัทขอแจ้งให้พนักงานทราบว่าพนักงานมีสิทธิปฏิเสธในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เพื่อทำการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากพนักงานไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับพนักงาน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับพนักงานได้
ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับพนักงาน หรืออาจไม่ได้รับสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการหรือบริการ รวมถึงประโยชน์อื่นใดที่จะได้รับในฐานะพนักงานของบริษัทไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ข้อ 5. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
5.1. บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามแนวปฏิบัติของข้อมูลแต่ละประเภท และหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะทำลายหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการที่เหมาะสมตามที่บริษัทกำหนดต่อไป
5.2. บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตลอดระยะเวลาที่จ้างงานและเมื่อพ้นสภาพการจ้างแล้วเป็นเวลาสิบปีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
5.3. บริษัทจะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น
ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลใดโดยปราศจากการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยตามที่ระบุไว้ข้างต้น พนักงานรับทราบและยินยอมว่าบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้
6.1. บริษัท GC และ/หรือบริษัทในกลุ่ม GC ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศ
6.2. บุคคลหรือองค์กรที่บริษัทได้ว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กรของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการวิเคราะห์ ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบ เป็นต้น
6.3. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย การบังคับคดี เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นมีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่บนพื้นฐานการรู้เท่าที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา
ข้อ 7. สิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
พนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ ดังนี้
7.1 ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทหรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
7.2 แจ้งให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.3 คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้
7.4 ขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลจากระบบนั้น ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัท เพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบภายหลังโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการกระทำใดๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายของบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น
7.5 ขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด
7.6 ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้
7.7 ร้องเรียนในกรณีที่บริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7.8 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
อย่างไรก็ตามบริษัทมีสิทธิปฏิเสธสิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยอาศัยเหตุตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า หรือกฎหมายอื่นได้อนุญาตไว้
ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมของพนักงาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทได้เก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยที่บริษัท ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านั้น
ข้อ 8. ช่องทางติดต่อ
พนักงานสามารถติดต่อ หน่วยงานบริหารประสิทธิผลทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหากพนักงานท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับคำบอกกล่าวการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับพนักงาน สามารถติอต่อได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้ หรือ
บริษัท จีซี เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เอนจิเนียริง จำกัด
เลขที่ 22/2 ถนนปกรณ์สงเคราะห์ราษฎร์ ตำบลมาบตาพุด
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21150
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 22/2 ถนนปกรณ์สงเคราะห์ราษฎร์ ตำบลมาบตาพุด
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21150
อีเมล : gcme_dpo@pttgcgroup.com
หน่วยงานบริหารประสิทธิผลทรัพยากรมนุษย์ ส่วนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 22/2 ถนนปกรณ์สงเคราะห์ราษฎร์ ตำบลมาบตาพุด
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21150
อีเมล : gcme.recruit@pttgcgroup.com
กรณีที่มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงคำบอกกล่าวการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ บริษัท จะประกาศคำบอกกล่าวการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับใหม่และจะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ
ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567